วันที่
4 ตุลาคม 2560 ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ท่าพระจันทร์ กรุงเทพมหานคร นายออมสิน
ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการแถลงข่าว "
งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร"
เพื่อชี้แจงรายละเอียดของการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร ให้ประชาชนรับทราบ
และมีส่วนร่วมในการแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ รวมถึงชี้แจงแนวทางปฏิบัติของสื่อมวลชนและประชาชนในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ
ซึ่งมีสาระสำคัญ อาทิ การเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์
สถานที่ตั้งพระเมรุมาศจำลองและซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ วิธีการเดินทาง การปิดการจราจร
จุดบริการอาหารและน้ำดื่ม เป็นต้น
สำหรับแนวทางปฏิบัติของสถานีวิทยุโทรทัศน์ในห้วงเดือนตุลาคม
2560 จะมีการปรับหน้าจอโทรทัศน์ตามที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
และกรมประชาสัมพันธ์ได้กำหนดรูปแบบการออกอากาศ คือ ตั้งแต่วันที่ 1-12 ตุลาคม 2560 เริ่มปรับโทนสี องค์ประกอบฉาก
และการแต่งกายของผู้ประกาศ วันที่ 13-24 ตุลาคม 2560 นำเสนอรายการพิเศษมีเนื้อหาเพื่อแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย และลดรายการบันเทิง
ตลก วันที่ 13 ตุลาคม
2560 จัดรายการพิเศษเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต วันที่ 25-29
ตุลาคม 2560 รับสัญญาณถ่ายทอดสดงานพระราชพิธีก่อนล่วงหน้า
1 ชั่วโมง วันที่ 28 ตุลาคม 2560
ออกทุกข์
สำหรับในช่วงวันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ
จะมีการจัดการจราจรของถนนราชดำเนินออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1) ถนนราชดำเนินช่องกลางที่เข้าสู่พระราชพิธีฯ
จะถูกแบ่งเป็นเส้นทางเสด็จ ส่วนที่ 2) ถนนราชดำเนินฝั่งขวา
เป็นเส้นทางสำหรับประชาชน แต่ไม่สามารถเข้าถึงบริเวณท้องสนามหลวงได้ และ ส่วนที่ 3)
ถนนราชดำเนินฝั่งซ้าย เป็นเส้นทางสำหรับกรณีพิเศษ
และในวันที่มีการซ้อมย่อยและซ้อมใหญ่ วันที่ 7 วันที่ 15
และวันที่ 21 ตุลาคม 2560 จะมีการปิดเส้นทางจราจร 13 เส้นทาง ได้แก่ ถนนเจริญกรุง ถนนสุรวงศ์ ถนนพระราม 6 ถนนพิษณุโลก ถนนราชดำเนิน ถนนเพลินจิต ถนนสาธรใต้ ถนนสาธรเหนือ ถนนพระราม 4 ถนนสุขุมวิท ถนนวิทยุ ถนนราชดำเนิน และ ถนนสนามไชย และวันที่ 25-29 ตุลาคม 2560 ปิดการจราจรโดยรอบท้องสนามหลวงในหลายเส้นทาง
พร้อมทั้งห้ามนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เข้า-ออก ทั้ง 2 ฝั่ง
ทั้งนี้ในช่วงวันพระราชพิธีฯ
จะมีการปิดถนนหลายเส้นทางและคาดว่าประชาชนอาจจะมาร่วมพระราชพิธีฯ จำนวนมากเช่นเดียวกัน
ถึงแม้จะมีการเตรียมอาหาร น้ำดื่ม รถสุขา รถ และเรือสาธารณะไว้ให้บริการฟรี
แต่อาจไม่ทั่วถึง
จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนเตรียมพร้อมดูแลตัวเองเบื้องต้นหรือนำอาหารและน้ำดื่มติดตัวมาด้วย เตรียมยาประจำตัวมาให้พร้อม และสิ่งที่สำคัญคือบัตรประจำตัวประชาชน
นอกจากนี้ในเรื่องจิตอาสาเฉพาะกิจในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ
ซึ่งมีด้วยกัน 8 ด้าน
คือ 1 งานดอกไม้จันทน์
2 งานโยธา 3 งานขนส่งเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
4 งานบริการประชาชน 5 งานแพทย์ 6 งานรักษาความปลอดภัย 7. งานจราจร และ 8 งานประชาสัมพันธ์
ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ได้มอบหมายให้ประชาสัมพันธ์จังหวัด
หัวหน้าหน่วยงานประสานกับจิตอาสาทุกด้าน ภาพบรรยากาศการทำงาน และรวบรวมภาพและเนื้อหาส่งให้ส่วนกลาง
คือกรมประชาสัมพันธ์
เพื่อรวบรวมจัดทำรายงานภาพการปฏิบัติงานประจำวันเพื่อให้ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสา
(ศอญ.) ต่อไป
พร้อมกันนี้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ได้กล่าวเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนให้เข้าร่วมพิธีในพื้นที่ของตนเอง เนื่องด้วย
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างพระเมรุมาศจำลองทั่วประเทศ
และมีการถ่ายทอดสดตามเวลาจริง รวมถึงได้รับความร่วมมือจากบริษัท ห้าง
ร้านเจ้าของจอ LED รับสัญญาณถ่ายทอดสดเสมือนหนึ่งประชาชนได้อยู่ร่วมในพิธีจริงด้วย
และในช่วงดังกล่าวมีการปิดเส้นทางจราจรหลายเส้นทาง
ถ้าเดินทางเข้ามาในพื้นที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวงก็จะไม่ได้รับความสะดวกเพราะต้องใช้การเดินทางด้วยรถหรือเรือสาธารณะ
และต้องเดินเท้าต่อ และเหตุผลสำคัญคือ ต้องการให้ประชาชนที่อยู่ในแต่ละพื้นที่ได้สัมผัสและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ได้เสด็จฯ
เยี่ยมเยีอนราษฎรของพระองค์มาแล้วทุกจังหวัดทั่วประเทศ และหลังงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯสำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนได้เข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติ
และพระราชกรณียกิจ ตั้งแต่วันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2560
สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ
สามารถสอบถามหรือหาข้อมูลได้ที่ โทร 1257 และ www.kingrama9.th
, https://www.facebook.com/informationcenter.for.kingrama9/
สุพรรษา อ่อนจันทร์ / ข่าว
ธนัชพร ถ้ำสิงห์
/ บรรณาธิการข่าว
ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์
สำนักนายกรัฐมนตรี